วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การใช้สื่อประสมค์มัลติมีเดีย




1 การใช้ภาพ


2 การใช้ปุ่ม


3 การใช้คลิปบนเว็ป เช่น Youtube, Flash, Add-In


4 เสียง


ส่วนเพิ่มเติม


มัลติมีเดีย (อังกฤษ: multimedia) หรือ สื่อประสม หรือ สื่อหลายแบบ เป็นการใช้สื่อในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ข้อความ เสียง รูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว สำหรับให้ข้อมูลความรู้หรือให้ความสำราญต่อผู้ชม

ปัจจุบันความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เอื้อให้นักออกแบบสื่อ มัลติมีเดีย สามารถประยุกต์สื่อต่างๆ ให้มารวมกันบนระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ สามารถโต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆ กันได้ เทคโนโลยีเหล่านี้ ได้พัฒนาขึ้นพร้อมกับการพัฒนาฮาร์ดแวร์ เช่น การพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้อ่านและ บันทึกข้อมูล การพัฒนาหน่วยความจำให้มีขนาดที่เล็กลงแต่มีความจุมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์ต่อพ่วงสำคัญต่างๆ เพื่อ ให้ติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้งาน


มัลติมีเดีย การใช้สื่อมากกว่า 1 สื่อร่วมกันนำเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยมีจุดมุ่งหมายให้ ผู้รับสื่อสามารถรับรู้ข่าวสารได้มากกว่า 1 ช่องทาง โดยผ่านการควบคุมการใช้ และโต้ตอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือเครือข่าย ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบของมัลติมีเดียให้สอดคล้องกับปรัชญาการ เรียนรู้มากขึ้น สื่อประเภทนี้ไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบของบทเรียนแบบโปรแกรม ที่ให้เพียงเนื้อหา คำถาม และคำตอบ แต่ได้รับการออกแบบให้เปิดกว้างสำหรับ การสำรวจกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดค้น สืบค้นมากขึ้น


สื่อมัลติมีเดีย สื่อประสมหรือสื่อหลายแบบที่มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการนำเสนอข้อมูล เป็นหลัก โดยได้มีการออกแบบนำเสนอไว้อย่างเป็นระบบ มัลติมีเดียนั้นได้รวมเอาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไว้ด้วยกัน จะเน้นส่วนไหน มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และจะเน้นผลผลิตที่เกิดจากการ นำเสนอข้อมูลหลากลายรูปแบบ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และข้อความ


เทคโนโลยีมัลติมีเดีย เทคโนโลยีได้เข้ามามีบาทเป็นอย่างสูงสำหรับในยุคนี้ ซึ่งสามารถพิจารณา จากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านสมรรถนะของซีพียู รวมทั้งประสิทธิ์ภาพของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในปัจจุบันนี้ ต่างก็พัฒนาขึ้น มาเพื่อรองรับความต้องการของเทคโนโลยีมัลติมีเดียมากขึ้น ตัวอย่างเช่น


1. ความสามารถของโปรเซสเซอร์ที่สามารถปะมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับการคำนวณด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

2. หน่วยความจำในเครื่องที่มีความเร็วสูงขึ้น และเพิ่มขยายได้มากขึ้น

3. การ์ดแสดงผลที่ช่วยให้แสดงภาพได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการแสดงผลสูง

4. จอภาพขนาดใหญ่

5. การ์ดเสียงและลำโพงที่สมบูรณ์แบบเทียบได้กับเครื่องเสียงราคาแพง ๆ

6. อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความจุมากขึ้น เช่น ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น

การใช้ตัวอักษรและภาพกราฟฟิก

- สีของตัวอักษร


เข้ม พื้น อ่อน/กลาง

กลาง พื้น เข้ม/อ่อน

อ่อน พื้น เข้ม/กลาง

- ลักษณะตัวอักษร

html (css) การกำหนดสีด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ โดยการเขียนโปรแกรม

ฟอนต์มาตรฐานที่ใช้กับหน้าเว็บ Ms san serif , Arial , Geneva , Helvetija 14-20 pt

ซึ่งอ่านง่าย

ถ้าเป็นหัวข้ออาจกำหนดความเด่นชัด เช่น หนา เอียง ขีดเส้นใต้ ตัวกระพิบ

- จำนวนของภาพกราฟฟิก

ภาพที่ใช้ประกอบในเว็บไซต์

ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเนื้อหา

อาจเป็นการใช้กับภาพหนึ่งภาพ เช่น หนึ่งภาพหนึ่งเรื่อง

- ตำแหน่งในการวางภาพ

ควรจะอยู่ด้านซ้าย ขวา หรือกลาง ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเรา

มองจากซ้ายไปขวา

- ขนาดของภาพ

JPEG , GIF

หลักการใช้สีในการออกแบบเว็บไซต์

1. จำนวนจองสีหลัก


สีหลักให้เลือกตาม Concept+Mood Tone หรือ Theme เพื่อแสดงให้ถึงภาพลักษณ์

2. การให้สีพื้นหลัง

ภาพ ลวดลาย สี

3. โทนสีโดยรวม

โทนร้อน โทนเย็น

4.สีกับหมวดหมู่

หมวดข่าว บันเทิง

อยู่ลักษณะเนื้อหาของหมวดหมู่

รูปแบบโครงสร้างหน้าเว็บไซต์

แนวตั้ง


               1.ลักษณะโครงสร้างหน้าเว็บ >>> เป็น WebPage แบบแนวตั้ง
2.ขนาดของหน้าจอเว็บ >>> ขนาด 1024x768 Pixels

แนวนอน


พอดีจอ